ประเภทกระดาษลูกฟูกต่างกันอย่างไร

Last updated: 28 ต.ค. 2567 | 21797 จำนวนผู้เข้าชม |

เนื้อกระดาษลูกฟูกเเต่ละประเภทเเตกต่างกันอย่างไร?

ทำไมต้องมีสีกระดาษหลายสี?

สีกระดาษลูกฟูกเกี่ยวกับความเเข็งเเรงไหม?

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ลูกค้านิยมถามนะครับ ผมเลยนำเอาเนื้อกระดาษหลักๆที่ลูกค้านิยมผลิตกับมาอธิบายกันอีกทีนะครับ

เนื้อกระดาษลูกฟูกจริงๆเเล้วมีกระดาษเเละสีกระดาษหลากหลายมาก เท่าที่นับได้เกือบ 20 เฉดสี เเต่สีที่ลูกค้านิยมจริงๆมีอยู่ประมาณ 4 เฉดครับ (ไม่นับสีขาวที่ราคาสูงนะครับ) ที่นี้มาดูกันว่าเเต่ละเฉดต่างกันอย่างไร เเล้วลูกค้าควรใช้เนื้อกระดาษเเบบไหน

ก่อนอื่นผมต้องอธิบายก่อนว่า เนื้อกระดาษกับเเกรมกระดาษจะไม่เกี่ยวกันครับ เเกรมกระดาษลูกฟูกคือความหนา โดยทั่วไปจะมีเเกรมเริ่มต้นที่ 125 เเกรม, 150 เเกรม, 185 เเกรม, เเละ 230 เเกรม ที่นี้เนื้อกระดาษเเต่ละชนิดมีหมดครับ หลายคนคิดว่าเนื้อกระดาษ KA 125 เเกรมจะเเข็งเเรงกว่า KL125 เเกรม จริงๆเเล้วไม่เกี่ยวกัน ความเเข็งเเรงกรณีเเกรมเท่ากัน ความเเข็งเเรงเท่ากันครับ

ทีนี้มาดูเรื่องของคุณสมบัติของเนื้อกระดาษลูกฟูกเเต่ละชนิดกันนะครับ ว่าทำไมลองจับเเล้วถึงรู้สึกต่างกัน

เริ่มกันที่เนื้อกระดาษ KA (สีทองส้ม) กันนะครับ

กระดาษ KA จะนิยมใช้กันในประเทศไทยเเละส่งออก โดยราคา KA จะค่อนข้างสูงกว่าเนื้อกระดาษชนิดอื่นเพราะมีคุณสมบัติการเคลือบในระดับนึง ดังนั้นเนื้อ KA จึงสามารถกันชื้นได้ดีกว่าหลายๆสเปค

ลูกค้ากลุ่มส่งออกจะนิยมใช้กระดาษ KA ประมาณ 80% ขึ้น โดยสเปค KA หากลงเรือจะนำไปเคลือบอีกชั้นนึง จะกลายเป็น KAV จะกับชื้นได้ดีเเละสามารถอยู่ในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำได้

เนื้อกระดาษ KL (สีเหลืองอ่อน)

เนื้อกระดาษ KL คุณสมบัติหลักๆคือความเหนียว เเละทนทานต่อเเรงจิกขาด กลุ่มลูกค้าที่นิยมเนื้อ KL จะเป็นกลุ่มโรงงานญี่ปุ่นที่บรรจุสินค้าประเภทอะไหล่ อุปกรณ์รถยนต์ ที่มีน้ำหนักค่อนข้างสูง นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น

เนื้อกระดาษ KL สามารถส่งไปทางต่างประเทศได้ครับ มีหลายประเทศเริ่ม concern กับการใช้กระดาษที่อนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเนื้อกระดาษ KL จะเข้ากลุ่มนี้ทางอเมริกา หรือยุโรป จะไม่ยอมรับเนื่อกระดาษ KA เท่าไหร่ครับ

เนื้อกระดาษ KI (สีครีม)

เนื้อกระดาษ KI ถูกพัฒนาออกมาเพื่องานพิมพ์สีโดยเฉพาะ ราคาจะดาษจะถูกกว่า KA เเละ WK (สีขาว) ดังนั้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเน้นงานพิมพ์เเต่ไม่อยากให้ต้นทุนที่สูงมาก ก็จะเปลี่ยนจากกระดาษ WK (สีขาว) มาเป็นกระดาษ KI สีไข่ไก่เเทน คุณสมบัติหลักๆจะมีสีครีมนวล ทำให้เหมาะเเก่งานพิมพ์สีทั้งโทนสว่างเเละโทนเข้ม นิยมในกลุ่ม SMEs เพราะงานพิมพ์สามารถปรับได้อย่างหลากหลาย

เนื้อกระดาษ KK (สีโกโก้)

เนื้อกระดาษ KK เป็นเนื้อกระดาษสีโทนเข้ม นิยมอย่างมากในตลาดของประเทศจีน เพราะราคาต่ำกว่าเนื้อกระดาษชนิดอื่นเเละมีเเกรมกระดาษให้ปรับความเเข็งเเรงได้อย่างหลากหลาย โดยเนื้อกระดาษ KK สามารถพิมพ์สีได้เหมือนทุกสเปคครับ เเต่อาจจะหนักไปทางสีโทนเข้มเนื่องจากสีเนื้อกระดาษ KK ค่อนข้างกลืนสีอยู่พอสมควร

สรุปง่ายๆ

KA - เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มส่งออกเเละกันชื้น

KL - เหมาะกับสินค้าหนักๆ หรือส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ยุโรปเเละอเมริกาเป็นหลัก (เเต่ไม่กันชื้นนะครับ)

KI - เหมาะสำหรับงานพิมพ์หลายสี กลุ่ม SMEs เเละงานที่ไม่เน้นบรรจุสินค้ามีน้ำหนัก หรืออีกกลุ่มคือกลุ่มงานดีไซส์

KK - ราคาถูก นิยมใช้ครั้งเดียวทิ้งเเละไม่พิมพ์สี